Admin
admin@grace4serv.com
เฟซบุ๊ก
เป็นเรื่องที่ไม่อยากเจอก็ต้องเจอ ไม่ว่าจะเป็นเพราะปัญหาเศรษกิจหรืออะไรก็ตาม ชุมชนมิจฉาชีพประดิษฐ์การหลอกลวงมาเรื่อยๆ และข้อความที่นำเสนอนี้ก็คงไม่เชยจนเกินไป เพราะเป็นมุกที่ใช้บ่อย ขอพระเจ้าประทานสติปัญญาแก่เราทุกคนในการผจญภัยอีกรูปแบบหนึ่งในยุคนี้
ตำรวจสอบสวนกลางเผย สายเรียกเข้าที่ท่านกำลังคุยอยู่ตอนนี้ อาจจะเป็น “มิจฉาชีพ” โทรมาคุยกับท่านก็เป็นได้ โดยมิจฉาชีพกลุ่มนี้จะสุ่มเบอร์โทรศัพท์เพื่อติดต่อหาเหยื่อ
โดยหลังจากนั้นจะพูดคุยโน้มน้าว หรือข่มขู่ให้เหยื่อตกใจ หลงเชื่อ และโอนเงินให้มิจฉาชีพ โดยข้ออ้างส่วนใหญ่ที่”มิจฉาชีพ” มักใช้จะหลอกเหยื่อมีดังนี้
1. #บัญชีเงินฝากถูกอายัด / #หนี้บัตรเครดิต : มิจฉาชีพจะขออายัดบัญชีเงินฝากของเหยื่อ อ้างว่าเป็นหนี้บัตรเครดิตหลอกให้เหยื่อตกใจ รีบโอนเงินมาให้
2. #บัญชีเงินฝากพัวพันกับการค้ายาเสพติด หรือการฟอกเงิน : มิจฉาชีพ จะอ้างว่าบัญชีเงินฝากของเหยื่อเกี่ยวข้องกับสิ่งผิดกฎหมาย หลอกให้เหยื่อโอนเงินเข้าบัญชีที่เตรียมไว้ โดยอ้างว่าจะทำการตรวจสอบ
3. #เงินคืนภาษี : มิจฉาชีพจะอ้างเป็นเจ้าหน้าที่สรรพากร แจ้งเหยื่อว่าได้รับเงินคืนภาษี โดยให้ยืนยันรายการตามคำบอกที่ตู้เอทีเอ็ม ซึ่งแท้จริงแล้วกลับเป็นขั้นตอนที่มิจฉาชีพหลอกให้เหยื่อโอนเงิน
4. #โชคดีได้รับเงินรางวัล : มิจฉาชีพจะอ้างเป็นเจ้าหน้าที่บริษัทต่างๆ แจ้งเหยื่อว่าได้รับเงินรางวัลหรือของรางวัลที่มีมูลค่าสูง หลอกให้เหยื่อโอนเงินค่าภาษีมาให้ก่อนรับรางวัล
5. #ข้อมูลส่วนตัวหาย : มิจฉาชีพจะอ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่สถาบันการเงิน อ้างว่าทำข้อมูลของเหยื่อสูญหาย เพื่อขอข้อมูลของเหยื่อใหม่ หลังจากนั้นจะนำไปปลอมแปลงหรือใช้บริการทางการเงินแทน
6. #โอนเงินผิด : มิจฉาชีพจะติดต่อไปยังสถาบันการเงินของเหยื่อ เพื่อขอสินเชื่อแทนเหยื่อ เมื่อสถาบันการเงินอนุมัติและโอนเงินเข้าบัญชีให้เหยื่อแล้ว มิจฉาชีพจะโทรศัพท์ไปหาเหยื่อ อ้างว่าโอนเงินผิดบัญชี หลอกให้เหยื่อโอนเงินดังกล่าวคืนให้
ขอบคุณ กรุงเทพธุรกิจ
อ่านต่อ: https://www.bangkokbiznews.com/news/989457?anm=
ข้อมูลจาก : ศูนย์คุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย