โดย Michael Gryboski บรรณาธิการ Mainline Church
จอห์น ไพเพอร์ นักศาสนศาสตร์ผู้มีชื่อเสียง ได้กล่าวถึงวิธีที่คริสเตียนสามารถตกอยู่ใน “การบูชาผีปิศาจ” และออกจากศาสนจักร โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อยุคสุดท้ายใกล้เข้ามา
ในตอนหนึ่งของรายการ “ถามศิษยาภิบาลจอห์น” เรื่องพระเจ้าที่ต้องการ ผู้ฟังถามเกี่ยวกับพระธรรม 1 ทิโมธี 4:1 ซึ่งกล่าวว่าบางคน “จะละทิ้งความเชื่อและติดตามวิญญาณที่หลอกลวงและสิ่งที่ผีปิศาจสอน”
หนึ่งผู้ร่วมเสวนาตั้งคำถาม “นี่ดูเหมือนจะเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่สำหรับคริสเตียนที่เคยอ้างตัวว่าเป็นผู้เชื่อ สิ่งนี้จะมีลักษณะอย่างไร หมายความว่า ผู้เชื่อพระเยซูกลายเป็นผู้นับถือผีอย่างโจ่งแจ้งจริงหรือ? หรือการเคลื่อนไหวนี้มีอะไรลึกซึ้งมากกว่านี้? ท่านช่วยอธิบายให้ฟังได้ไหม ว่าเกิดอะไรขึ้นในข้อความนี้”
ไพเพอร์เริ่มด้วยการย้ำว่า “ไม่มีคริสเตียนคนใดที่ถูกเรียกและชอบธรรมอย่างแท้จริงจะไม่เคยหลงไปบูชาปีศาจ” ท่านกล่าวว่าคำถามนี้เกี่ยวข้องกับผู้คน “ซึ่งเคยอยู่ในคริสตจักรมาหลายปี และภายนอกระบุว่าเป็นคริสเตียนแต่ยังไม่ได้บังเกิดใหม่อย่างแท้จริง” และจบลงด้วยการ “ถูกพัดพาไปในคำสอนของปีศาจ”
ไพเพอร์เสริมว่า คนที่เข้าร่วมพิธีในโบสถ์อาจได้รับอิทธิพลจากวิญญาณหลอกลวง และสิ่งเหล่านี้สามารถนำไปสู่ “ลัทธิปฏิบัติ” และการสอนเท็จได้ เขากล่าวว่าสิ่งนี้จะเลวร้ายมากขึ้นในยุคสุดท้าย
“อันตรายของการล่อลวงโดยวิญญาณหลอกลวงและคำสอนของปีศาจมีอยู่ตลอดยุคที่ตกสู่บาปนี้ ตั้งแต่สมัยพระเยซูจนกระทั่งพระเยซูเสด็จกลับมา” ไพเพอร์กล่าว “พวกมารอยู่ที่นั่นเสมอ แต่จะมีการล่อลวงที่ยิ่งใหญ่กว่าเมื่อยุคสุดท้ายใกล้เข้ามา และองค์พระผู้เป็นเจ้าเสด็จมาใกล้”
สำหรับการสนับสนุนด้านพระคัมภีร์ ไพเพอร์อ้างถึงข้อความในพระคัมภีร์สองสามข้อ รวมถึงมัทธิว 24:12–13 ซึ่งพระเยซูตรัสว่า “เพราะความชั่วร้ายเพิ่มขึ้น ความรักของคนส่วนใหญ่จะเยือกเย็น แต่คนที่ยืนหยัดจนถึงที่สุดจะรอด”
“กล่าวอีกนัยหนึ่ง ความลึกลับของการไม่เคารพกฎหมายจะส่งผลกระทบอย่างมากต่อคริสเตียนที่เป็นบุคคลธรรมดา ซึ่งความรักที่มีต่อพระคริสต์นั้นตื้นเขินและตื้นเขิน พวกเขาจะเย็นชา การต่อต้านการหลอกลวงของปีศาจจะหลงทางและพวกเขาจะไม่อดทนจนถึงที่สุด” ไพเพอร์กล่าว
ไพเพอร์สังเกตว่าการละทิ้งคริสเตียนที่มีชื่อจากศาสนจักรนี้อาจเกิดขึ้นอย่าง “ค่อยเป็นค่อยไป” หรือ “อย่างกะทันหัน” แต่เสริมว่าหากคริสเตียน “ยังคงอยู่ในพระคุณของพระเจ้าและเห็นคุณค่าพระคริสต์เหนือสิ่งอื่นใด เราจะถูกรักษาไว้”
ไพเพอร์มุ่งความสนใจไปที่การที่ชาวคริสต์หลงเชื่อความคิดชั่วร้ายเกิดขึ้นไม่นาน หลังจากการเปิดตัวหนังสือเล่มล่าสุดของไมเคิล บราวน์ ผู้แต่งและนักจัดรายการวิทยุ Why So Many Christians Have Leave the Faith ซึ่งมีการสำรวจว่าเหตุใด คริสตจักรในอเมริกาจำนวนมากจึงตกต่ำลง
ในการให้สัมภาษณ์กับ The Christian Post เมื่อเดือนที่แล้วเกี่ยวกับหนังสือของเขา บราวน์กล่าวว่าการที่ชาวคริสต์ละทิ้งความเชื่อเป็น “สิ่งที่เกิดขึ้นซึ่งต้องได้รับการแก้ไข” และกล่าวว่ามันขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย
“เมื่อผมพูดคุยกับผู้คนมากมายที่เป็นแนวหน้าในการตอบคำถามของผู้มีปัญหา และคนอื่นๆ ที่กำลังทำพันธกิจเยาวชน แต่ละคนจะบอกสิ่งที่แตกต่างออกไป” บราวน์อธิบาย
ปัจจัยหนึ่งที่บราวน์ถือว่าเป็นสิ่งที่น่าสังเกตคือ “ผลกระทบของข่าวประเสริฐที่ถูกประนีประนอมกับระบบของโลก” กล่าวเสริมว่า “ความล้มเหลวของเราในการประกาศการทรงเรียกที่ชัดเจนเพื่อการเป็นสาวก และข่าวสารเกี่ยวกับไม้กางเขนที่ชัดเจน ทำให้มีคริสเตียนจำนวนมากที่อาจจะเป็นคริสเตียนจริงๆ หรือไม่ใช่คริสเตียนเลย”
“พวกเขาได้ยินพระกิตติคุณรูปแบบหนึ่ง ซึ่งเป็นลักษณะโค้ชชีวิตเชิงบวก แต่ไม่ได้รับการเปลี่ยนแปลงภายในอย่างแท้จริง” เขากล่าว
