
Facebook : Nati Khoochotikul
Link ข้อความ : Facebook
ว่าด้วยเรื่อง seed of faith (ตามที่สัญญาเอาไว้)
ถ้า word of faith คือ “วาจาเทวะ” ที่เอาไว้บังคับให้พระเจ้าต้องทำตามใจผู้อธิษฐาน ไม่ว่าจะด้วยการสั่งสถานการณ์/พระเจ้าด้วยการออกเสียง การอ้างพระสัญญาให้มีน้ำหนักมากกว่าพระลักษณะของพระเจ้าที่ยิ่งใหญ่สูงสุด หรือแม้แต่กระทั่งพระพรฝ่ายโลกที่เน้นว่าต้องได้รับ
เรื่องของ seed of faith ก็จะเป็นอะไรก็ตามที่มาคู่กันเสมอ
คำสอนเรื่อง seed of faith ถูกปั่นมานานมากแล้ว แต่คนที่ทำให้มันโด่งดังจนกลายเป็นการตลาดของคริสตจักรสอนผิดไปแล้ว คือ Oral Robert (คนเดียวกับที่ปั่น word of faith นั่นหละครับ) ในที่นี้ ขอสรุปเรื่อง seed of faith ดังนี้
1. seed of faith เป็นคำสอนที่เลี่ยงบาลี เลี่ยงภาษาทางศาสนศาสตร์
เพราะมันถูกทำให้ดูดีด้วยการเอาคำในพระคัมภีร์มาตีความใหม่ตามใจคนสอนให้ดูดี แทนที่จะบอกแบบตรงไปตรงมา “เอาเงินมาให้พระเจ้าสิ แล้วพระเจ้าจะอวยพรคุณมากๆเหมือนเงินที่คุณนำมาถวาย” เขาไม่พูดตรง ๆ แบบนั้น แต่พูดเหมือนการปลูกต้นไม้
เมื่อเอาเมล็ดพันธุ์ลงดิน เมล็ดพันธุ์ย่อมเติบโต
แต่เมื่อเอาเมล็ดพันธุ์นั้นไปไว้ในการครอบครองของพระเจ้า มันย่อมให้ผลที่มากกว่า
ฟังแล้วเริ่มเคลิ้ม ๆ ไหมครับ
เคลิ้มสิครับ เพราะเขาจะเอาพระคัมภีร์บางตอนมาอ้างอิงด้วย เช่น ในมาระโก 4:8 นักเทศน์ที่ทำแบบนี้จะอ้างว่า “เห็นไหม หว่านพืชในทางพระเจ้า เกิดผล 30 เท่า 60 เท่า 100 เท่า”
ความจริงที่น่าตกใจ คือ บริบทของพระคัมภีร์มาระโก 4 เรื่องผู้หว่านเมล็ดพืชเป็นเรื่องของการเกิดผลจากพระวจนะพระเจ้า ไม่ใช่การลงทุน นำไปสู่ประการที่ 2 คือ
2. seed of faith ทำให้พระเจ้ากลายเป็นตู้ ATM และการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์
ที่ว่าตู้ ATM เพราะนักเทศน์จะเริ่มสอนว่า “เมล็ดพันธุ์แห่งความเชื่อ คือ การแสดงออกด้วยการถวายทรัพย์” หมายความว่า ถ้าคุณอยากมีความมั่นคงทางการเงิน อยากมีสุขภาพดี คุณต้องมีความเชื่อ และความเชื่อสำแดงออกด้วยการถวายทรัพย์ ถ้าคุณถวายมาก พระเจ้าก็อวยพรคุณมาก และพระคุณแบบนั้นสามารถเกิดขึ้นกับคุณได้ทันที “ยิ่งถวายมาก พระเจ้ายิ่งคืนให้คุณมาก”
คำสอนแบบนี้จึงทำให้พระเจ้ากลายเป็นตู้ ATM ที่เราจะไปถอนเงินคืนเมื่อไหร่ก็ได้ และได้กำไรจากการทำแบบนี้ด้วย
ที่ว่าตลาดหลักทรัพย์ เพราะคำสอนแบบนี้เน้นที่การลงทุนกับพระเจ้า ประมาณว่า “ลงทุน 100 บาท แต่ได้กำไรเป็นพันเท่า”
ความจริงที่น่าตกใจ คือ การลงทุนที่ขาดความรู้ในสิ่งที่กำลังลงทุน ผู้ลงทุนจะเจ๊งเสมอ และคนที่ได้กำไรมักจะเป็นเจ้ามือ หรือคนที่โชคดีจริง ๆ ที่เรียกว่า เล่นการพนัน
seed of faith เป็นอย่างนั้น คือ นักเทศน์ได้หลอกให้คุณถวายมทรัพย์เพื่อแลกกับพระพรที่ไม่มีอยู่จริงในคำสอนแห่งพระวจนะพระเจ้า เขาหลอกให้คุณถวายเพราะเขารู้จักพื้นฐานทางจิตใจของมนุษย์ คือ อยากลงทุนน้อย ๆ แต่ได้กำไรมาก ๆ เรียกอีกอย่างว่า “เขารู้ว่าคุณมีความโลภ เขาเลยเล่นกับความโลภของคุณ”
มีบุคคลสำคัญในพระคัมภีร์หลายคนที่มีฐานะที่ดีจากการอวยพรของพระเจ้า แต่เป็นความจริงที่ว่ามีบุคคลที่ทำการรับใช้พระเจ้า แต่ยากจน ต้องลำบาก ต้องประสบผลร้ายจากการรับใช้พระเจ้า แต่พระเจ้าอยู่เคียงข้างคนเหล่านั้น
แสดงว่า น้ำพระทัยในชีวิตของแต่ละคนนั้นแตกต่างกัน และไม่จำเป็นว่าทุกคนที่เชื่อพระเจ้าต้องรวยเหมือนกันหมด พระเจ้าทรงปรารถนาความซื่อสัตย์ของคุณในการติดตามพระองค์ ไม่ใช่ความมั่งคั่งที่คุณอยากได้รับในโลกนี้
การที่บางคนต้องทุกข์ยากลำบาก แปลว่า พระเจ้าไม่อวยพรคนเหล่านั้นหรือ สาวก 11 คนที่ต้องทนทุกข์เพื่อพระคริสต์หลังจากที่พระองค์เสด็จขึ้นสู่สวรรค์ แปลว่า พวกเขาไม่ได้ถวายมาก ๆ หรือ คิดดูสิครับ
คิดดูแล้วจะเห็นได้เลยว่า การถวายทรัพย์มาก ๆ ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับการทนทุกข์เลย
สรุปว่า ผมก็ไม่ได้รู้อะไรมากนักหรอก แต่ที่แน่ ๆ คำสอนเรื่อง seed of faith คือ คำสอนหลอกลวงที่เน้นว่า คุณต้องถวายเยอะ ๆ เพื่อลงทุนกับพระเจ้า ให้พระเจ้าอวยพรคุณ ยิ่งถวาย ๆ เยอะ ๆ พระเจ้ายิ่งอวยพร ซึ่งความจริงอาจไม่เป็นเช่นนั้นเสมอไป คำสอนแบบนี้เป็นการดูถูกพระเจ้า เพราะทำให้พระเจ้ากลายเป็นคนที่ต้องคอยมาตอบแทนการลงทุนของคนถวาย
มันจะกลายเป็นว่า ถ้าคนเลวคนหนึ่งถวายเงินเยอะ ๆ แปลว่าพระเจ้าต้องอวยพรเขาเยอะ ๆ เพราะเงินถวายเช่นนั้นหรือ?
สงสัยต้องมีตอนต่อไป
เนติ เขียนให้คุณอ่าน