
ศจ. ดร. มาโนช แจ้งมุข
วันอีสเตอร์ ถือได้ว่าเป็นวันที่สำคัญที่สุดในความเชื่อคริสเตียน เพราะหากมีคริสตมาสแต่ปราศจากอีสเตอร์ หลักข้อเชื่อของเราหมดความหมาย เป็นเพียงหลักการทางศาสนาที่ไร้จุดหมาย แต่พระเยซูคริสต์ทรงเป็นขึ้นจากความตายในวันนี้ เพื่ออนาคตของผู้เชื่อพระองค์ทุกคน
“ถ้าท่านรับการทรงชุบให้เป็นขึ้นมาด้วยกันกับพระคริสต์แล้ว ก็จงแสวงหาสิ่งซึ่งอยู่เบื้องบน ในที่ซึ่งพระคริสต์ทรงสถิตอยู่ คือประทับข้างขวาของพระเจ้า จงเอาใจใส่สิ่งที่อยู่เบื้องบน ไม่ใช่สิ่งซึ่งอยู่ทีแผ่นดินโลก เพราะว่าท่านได้ตายแล้ว และชีวิตของท่านซ่อนไว้กับพระคริสต์ในพระเจ้า เมื่อพระคริสต์ผู้ทรงเป็นชีวิตของเราทรงปรากฏ ขณะนั้นท่านก็จะปรากฏพร้อมกับพระองค์ในศักดิ์ศรีด้วย” (โคโลสี 3:1-4)
แน่นอน คำมั่นสัญญานี้จะไม่เพียงแต่เราเท่านั้นที่จะได้รับ เพราะพระเจ้าให้เรามีชีวิตอยู่เพื่อการรับใช้ เพื่อคนอื่นจะได้มีโอกาสที่ดีๆ แบบเราด้วย
“อุโมงค์ว่างเปล่าพิสูจน์ว่าคริสตศาสนาคือเรื่องจริง แต่คริสตจักรที่ว่างเปล่าปฏิเสธความจริงนั้น!” คำกล่าวนี้ เชื่อว่าจะสะท้อนมุมมองพันธกิจการรับใช้งานของพระเจ้าในคริสตจักรของเราเองได้เป็นอย่างดี
การตายเป็นเพียงจุดเริ่มต้นของชีวิต ชีวิตคริสเตียนต้องมุ่งสู่ความตายอันพิเศษสุดที่พระเยซูคริสต์ได้ทรงยอมเพื่อเรา จุดมุ่งหมายที่แตกต่างกับโลกนี้ ทำให้เราตระหนักในตัวตนที่แท้จริง ทำให้เรามีชีวิตที่มีความหวัง ทำให้เรารับใช้พระเจ้ารับใช้สังคมอย่างมีประสิทธิภาพ และที่สุดแล้ว ชีวิตเราเจริญขึ้นเพราะความตายนั้น
อย่าให้เทศกาลนี้เพียงแต่ทำให้เราสบายใจเพราะรู้ว่าพระเจ้าตายเพื่อเรา แต่ขอให้เราเป็นคริสเตียนที่ทำหน้าที่ให้สมกับความตายที่ทุกข์ทรมานขององค์พระเยซูคริสต์อย่างเต็มที่