ประสิทธิ์ แซ่ตั้ง
https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=3047134048853297&id=100006701943467
โอกาสใหม่ ชีวิตใหม่
สำหรับคริสตจักรของพระเยซูคริสต์!
จากภัยการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด 19 ทำให้การนมัสการในวันอาทิตย์ของคริสตจักรท้องถิ่นต้องงดการนมัสการร่วมกันในอาคารคริสตจักร ผู้นำคริสตจักรหลายท่านมีความกังวลเรื่องนี้เพราะทำให้การถวายทรัพย์ประจำสัปดาห์ของคริสตจักรลดน้อยลง แต่มีค่าใช้จ่ายคงเดิม
หลายคนกังวลว่า หลังจากโควิดสงบลงบ้างแล้วจนสามารถเปิดอาคารคริสตจักรนมัสการพระเจ้าได้จะมีสมาชิกส่วนหนึ่งอาจจะหายหน้าไม่มาร่วมนมัสการในวันอาทิตย์ที่คริสตจักร เพราะสมาชิกคริสตจักรส่วนนี้จะรู้สึกสะดวกสบายกับการนมัสการพระเจ้าทางออนไลน์ เมื่อเปิดโบสถ์แล้วสมาชิกกลุ่มนี้ก็จะไม่มาร่วมนมัสการที่คริสตจักร เพราะเขาคาดหวังว่า คริสตจักรก็ยังจะมีการถ่ายทอดการนมัสการพระเจ้าออนไลน์อยู่ หรือถ้าคริสตจักรงดการถ่ายทอดออนไลน์ เขาก็สามารถที่จะเข้าชมและร่วมในการถ่ายทอดออนไลน์ในคริสตจักรอื่นได้
แต่ท่ามกลางสิ่งเลวร้ายภัยจากการแพร่ระบาดของโควิด 19 พระเจ้าได้ประทานช่องทางที่เป็นโอกาสให้คริสต์ชนในการเสริมสร้างความเข้มแข็งในชีวิตและพันธกิจคริสตจักร ทำให้เป็นคริสตจักรที่เข้มแข็ง และ ทำพันธกิจอย่างมีประสิทธิภาพ และ เกิดผลที่สูงขึ้น ผู้นำ และ สมาชิกคริสตจักรดังกล่าวเลือกที่จะใช้โอกาสที่พระเจ้าประทานให้ แทนการจมจ่อมในความความคิดความรู้สึกของการเลวร้ายสูญเสียที่กำลังประสบอยู่
หลายท่านถามว่า แล้วพระเจ้าประทานโอกาสสำหรับคริสตจักรท่ามกลางการแพร่ระบาดของโควิด และ ภัยหลังจากภัยพิบัติโควิด 19 อย่างไรบ้าง?
ใช่ครับเราต้องมองไปยังโอกาสที่พระเจ้าประทานแก่เราให้เห็น แล้วเริ่มที่จะพึ่งการทรงชี้นำจากพระเจ้า และพึ่งพิงในพระปัญญาเพื่อจะรู้ว่าจะทำเช่นไรในโอกาสที่ได้รับนั้น และนี่คือบางประการที่เราสามารถใช้โอกาสจากพระเจ้าในการสร้างและหนุนเสริมชีวิตและการทำพันธกิจคริสตจักรให้เกิดผลตามพระบัญชาและพระประสงค์ของพระคริสต์ ดังนี้
1. เป็นโอกาสลิดแขนง ตัดแต่งกิ่ง “อิทธิพลและความคิดเชิงลบ” ออกจากชุมชนคริสตจักร
ประการสำคัญแรกคือ ความเข้าใจที่ถูกต้องตามรากฐานในพระคัมภีร์ การมาร่วมกันในอาคารคริสตจักรมิใช่เพื่อจะประกอบศาสนพิธี หรือ ทำพิธีกรรมร่วมกันเป็นสำคัญ แต่เป็นโอกาสในการเสริมสร้างชีวิตสมาชิกให้เป็นชีวิตที่ทุกวันนมัสการพระเจ้า ที่สรรเสริญ ให้เกียรติและยกย่องพระองค์ผ่านชีวิต-ประจำวันของสมาชิก
นอกจากเป็นโอกาสในการเสริมสร้างชีวิตที่นมัสการพระเจ้าแล้ว ยังเป็นโอกาสเสริมสร้างสามัคคีธรรมระหว่างทุกคนในคริสตจักรเข้าด้วยกัน และเป็นโอกาสในการเสริมสร้างให้สมาชิกแต่ละคนมีชีวิตที่ถวายตัวรับใช้พระเจ้าตามการทรงเรียก และที่สำคัญคือการเสริมสร้างซึ่งกันและกันถึงชีวิตที่เป็นสาวกพระคริสต์ในแต่ละวัน และ
เป็นโอกาสที่พระเยซูคริสต์จะ “ส่ง” สมาชิกแต่ละคนออกจากคริสตจักรเพื่อเข้าไปยังชุมชนสังคมในชีวิตประจำวันเพื่อที่จะถวายตัวรับใช้พระเจ้าทั้งในครอบครัว ในที่ทำงาน และในชีวิตร่วมกับชุมชนสังคม
2. เป็นโอกาสที่คริสตจักรจะปรับเปลี่ยนจุดมุ่งเน้น
ในช่วงเวลาที่ผู้นำ และ สมาชิกคริสตจักรต้องเก็บกักตัว และ รักษาระยะห่างทางสังคม เป็นโอกาสที่ผู้นำคริสตจักรจะกลับมาคิดทบทวนถึงเป้าหมายของชีวิตและการทำพันธกิจคริสตจักร เพื่อเสริมสร้างความชัดเจนในเป้าหมายและแนวทางที่จะมุ่งไปสู่เป้าหมายของคริสตจักรที่พระเยซูคริสต์ประสงค์ อาจจะใช้เวลาที่ต้องเก็บกักตัว และ การรักษาระยะห่างทางสังคมโทรพูดคุยปรึกษาในเรื่องนี้กับผู้นำคริสตจักรคนอื่นๆ และสมาชิกบางท่านในคริสตจักร อันเป็นการหว่านเมล็ดความเชื่อตามพระกิตติคุณของพระเยซูคริสต์ และเป็นการเตรียมพร้อมสำหรับโอกาสของการเปิดอาคารโบสถ์เพื่อพบปะกันใหม่ที่จะมาถึงนี้
3. เป็นโอกาสที่จะเสริมสร้างความชัดเจนในการเป็นสมาชิกคริสตจักร
เมื่อคริสตจักรเปิดอาคารโบสถ์เพื่อสมาชิกมารวมตัวกันใหม่อีกครั้งหนึ่ง ผู้นำคริสตจักรจะสามารถใช้โอกาสเริ่มต้นใหม่นี้ในการเสริมสร้างเป้าหมายของคริสตจักรให้ชัดเจน ที่สมาชิกทุกคนจะ “รู้” “เข้าใจ” และ “ร่วม” เพื่อที่จะนำชีวิตและการทำพันธกิจของคริสตจักรไปสู่เป้าหมายและมีขั้นตอนกระบวนการขับเคลื่อนไปอย่างชัดเจนเป็นระบบร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพและเกิดผลมากกว่าเดิม และเป็นการปรับเปลี่ยน และ สร้างเสริมความเข้าใจใหม่ในการเป็น “สมาชิก” ของคริสตจักร
4. เป็นโอกาสที่จะก้าวไปข้างหน้าได้สะดวกรวดเร็วขึ้น
คริสตจักรที่เรียบง่ายตามรากฐานพระกิตติคุณ คือการที่สมาชิกแต่ละคนได้คันพบตนเองว่า คริสตจักรของตนจะเป็นคริสตจักรของพระคริสต์ควรจะมีชีวิตและมีการขับเคลื่อนไปด้วยกันอย่างไร ผู้นำคริสตจักรสามารถร่วมกันกำหนดกระบวนการขับเคลื่อน กิจกรรมในลักษณะต่างๆ และกระบวนการขับเคลื่อนที่เข้าถึงและตอบสนองความจำเป็นต้องการในชีวิตของชุมชนเป้าหมายได้ดียิ่งขึ้น และนี่เป็นกระบวนการเสริมสร้างสมาชิกให้เป็นสาวกพระคริสต์ที่แข็งแรงเชิงปฏิบัติการขึ้นไปพร้อมกัน มิใช่เพียงเชื่อในจิตใจเท่านั้น
5. เป็นโอกาสที่คริสตจักรจะกลับมาเน้นย้ำจริงจังถึงเป้าหมายตามพระมหาบัญชาของพระเยซูคริสต์ และสร้างเสริมชีวิตสมาชิกแต่ละคนให้เป็นสาวกพระคริสต์อย่างแท้จริง
คริสตจักรควรใช้โอกาสอันสำคัญครั้งนี้ที่จะเป็นคริสตจักรที่มุ่งสู่การมีชีวิตที่เป็นพยานถึงความรักเมตตาที่เสียสละของพระเยซูคริสต์ ผ่านชีวิตประจำวันของสมาชิก ทั้งในครอบครัว ในที่ทำงาน และในกลุ่มชุมชนที่สามารถไปเกี่ยวข้องสัมพันธ์ด้วย กล่าวคือเราต้องเป็นคริสตจักรที่เน้นย้ำในการสร้างสมาชิกให้เป็นสาวกพระคริสต์ และส่งสาวกพระคริสต์ให้เข้าถึงชีวิตของชุมชน และสำแดงพระกิตติคุณของพระเยซูคริสต์ผ่านการดำเนินชีวิต-ประจำวันเพื่อคนรอบข้างจะสัมผัสกับความรักเมตตาที่เสียสละของพระเยซูคริสต์ผ่านชีวิตของสมาชิกแต่ละคนได้
ในวิกฤติการแพร่ระบาดของ โควิด 19 พระเจ้าได้ประทานโอกาสใหม่ ชีวิตใหม่แก่คริสตจักรของพระองค์ และให้คริสตจักรกลับมาสู่ชีวิตแห่งการเป็นสาวกของพระคริสต์ใหม่อีกครั้งหนึ่ง เพื่อที่จะกระทำตามพระมหาบัญชาของพระคริสต์ให้เกิดผลตามพระประสงค์ของพระองค์
เมื่อคริสตจักรเปิดอาคารให้สมาชิกเข้ามาร่วมกันนมัสการอีกครั้งหนึ่ง เราจะมิใช่มาเพื่อเฉลิมฉลองการได้กลับมาพบหน้าร่วมกัน เพราะพี่น้องของเราในคริสตจักรที่ไม่ได้มาร่วมอีกจำนวนหนึ่งที่ยังขาดหายไป แล้วเราจะเฉลิมฉลองการกลับมาพบกันที่แท้จริงของ “คริสตจักร” ได้อย่างไร?
แต่ให้เราร่วมกันเฉลิมฉลอง ที่คริสตจักรของเราจะเริ่มต้นชีวิตและขับเคลื่อนพันธกิจใหม่ของคริสตจักร ที่จะมีชีวิตและขับเคลื่อนไปสู่เป้าหมายแห่งพระมหาบัญชาของพระคริสต์ เราจะร่วมกันเฉลิมฉลองที่พระเจ้าประทานโอกาสการเริ่มต้นชีวิตคริสตจักรใหม่อีกครั้งหนึ่ง เราเฉลิมฉลองเพราะพระคริสต์ทรงเปิดโอกาสให้คริสตจักรของเรากลับมาเป็นคริสตจักรที่มีชีวิตตามพระมหาบัญชา และ มีชีวิตที่เป็นสาวกของพระคริสต์อย่างแท้จริงและเกิดผล